Project-detail[Rerun] + Summarize (●*∩_∩*●)
โครงงานศึกษา Class-project : Quantum Burst
สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบเขตของโครงงาน
1. นักศึกษาสามารถเลือกหัวข้อในการทาโครงงานได้
โดยอาจศึกษาจากหัวข้อที่พิพิธภัณฑ์เด็กมีอยู่แล้ว หรือจากการพูดคุยกับ Users
เพื่อกาหนดหัวข้อที่เหมาะสม
2. นักศึกษาออกแบบผลงานนิทรรศการโดยคานึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก
ตามหลักกระบวนการ Design Thinking : Empathy, Define, Ideate, Prototype,
Test
3. โครงสร้างทางกลของผลงาน
มีการออกแบบตามหลักการทางวิศวกรรมและมีส่วนประกอบของกลไกพื้นฐานทางกล เช่น เพลา
เบรก คลัตช์ คัปปลิง สายพานโซ่ สกรู เฟือง และแบริ่งให้มีการเคลื่อนไหวได้
ผลงานนิทรรศการ สามารถสื่อสารและโต้ตอบกับผู้ข้าชมได้ผ่านการประมวลผลสัญญาณ
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
โครงงานนี้
มีวัตถุ ประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความสนุกเพลิดเพลิน
ไปพร้อมกับการฝึกไหวพริบ การวางแผน และการมีน้ำใจนักกีฬา โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับดวงดาวสอดแทรกไปด้วยในระหว่างทำกิจกรรม
เวลา และแผนการปฏิบัติงาน
1.โครงงานศึกษานี้เริ่มปฏิบัติงานเมื่อ
- เดือนมีนาคม 2559 สิ้นสุดการปฏิบัติงานเมื่อ 1
พฤษภาคม 2559
2.
ขั้นตอนการดำเนินงาน
และแผนการปฏิบัติงาน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Summarize
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
โครงงานนี้ มีวัตถุ ประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความสนุกเพลิดเพลิน ไปพร้อมกับการฝึกไหวพริบ การวางแผน และการมีน้ำใจนักกีฬา โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับดวงดาวสอดแทรกไปด้วยในระหว่างทำกิจกรรม
วิธีวัดผลตามวัตถุประสงค์
วิธีวัดผลนั้น จะเริ่มจากการสังเกตุ และพูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และระหว่างเข้าร่วมกิจกรรม ว่าผู้ร่วมนั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร หากผู้เข้าร่วมนั้นเริ่มมีการใช้ไหวพริบ หรือมีการวางแผนนั้น ตัวเกมจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง คือการควบคุมและการบังคับรถจะมีแบบแผนมากขึ้น มีการร่วมมือกันในทีม ในการวัดว่าเด็กนั้นได้รับความรู้เรื่องดวงดาวหรือไม่นั้น เราจะรู้ได้จากการพูดคุยสอบถามผู้เข้าร่วม และในในส่วนความสนุก นั้นวัดได้จากการสังเกตุลักษณะอาการ และอารมณ์ร่วมของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
สรุปผลการสังเกตุ
จากการวัดผล ทำให้เราสรุปได้ว่าเราสำเร็จตามวัตถุประสงค์เกือบทั้งหมดไม่ว่าจะการฝึกไหวพริบ การวางแผน ความสนุก เว้นเพียงแต่หัวข้อการให้ความรู้เรื่องดวงดาวแก่ผู้เข้าร่วม เพราะว่าเราได้ทำการหยุดการเผยแพร่ความรู้แก่ผู้เข้าร่วม อันนั้นเนื่องจากเกิดปัญหาคือผู้เข้าร่วมนั้นไม่สนใจที่จะฟัง บวกกับมีคิวต่อเข้าร่วมกิจกรรมค่อนข้างมาก เราจึงโฟกัสไปที่ตัวเนื้อกิจกรรมแทน
สะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้
จากตลอดเวลาที่ได้ทำ Project นี้มาทำให้ทางเราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดต่างๆจากในงานของเราอย่างมากมาย และได้มีการประยุกต์เอาความรู้อื่นๆเข้ามาใช้พัฒนาโปรเจคนี้ อย่างการนำระบบ Image Processing เข้ามาใช้ การออกแบบชิ้นงาน การวางแผนจัดการและการบริหารเวลา และสุดท้ายคือความอดทนในการทำงาน[One-night miracle]
ปัญหาระหว่างดำเนินโปรเจค
1. แบตเตอรี่ นั้นหมดเร็ว และชาร์ตเติมประจุได้ช้ากว่าที่คาดไว้ ทางเราจึงแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนรถในสนามลงจาก 6 คัน เหลือ 4 คันแทนเพื่อให้มีรถ+แบตเตอรี่สำรอง ในการเปลี่ยนช่วง
2. มีผู้ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมมากเกินไปจนทำให้ระบบการเรียงคิวผิดพลาด ทางเราจึงได้ทำการแจกบัตรคิวให้แทน แต่วิธีการแก้ปัญหานี้ มันดูไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่
3. ระบบ Image processing นั้นประมวลได้ช้าไป ทำให้ผลการนับคะแนนคลาดเคลื่อน เราจึงทำการปิดระบบ Image ไป แล้วใช้การนับมือแทน เพื่อความรวดเร็ว
วิธีวัดผลตามวัตถุประสงค์
วิธีวัดผลนั้น จะเริ่มจากการสังเกตุ และพูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และระหว่างเข้าร่วมกิจกรรม ว่าผู้ร่วมนั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร หากผู้เข้าร่วมนั้นเริ่มมีการใช้ไหวพริบ หรือมีการวางแผนนั้น ตัวเกมจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง คือการควบคุมและการบังคับรถจะมีแบบแผนมากขึ้น มีการร่วมมือกันในทีม ในการวัดว่าเด็กนั้นได้รับความรู้เรื่องดวงดาวหรือไม่นั้น เราจะรู้ได้จากการพูดคุยสอบถามผู้เข้าร่วม และในในส่วนความสนุก นั้นวัดได้จากการสังเกตุลักษณะอาการ และอารมณ์ร่วมของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
สรุปผลการสังเกตุ
จากการวัดผล ทำให้เราสรุปได้ว่าเราสำเร็จตามวัตถุประสงค์เกือบทั้งหมดไม่ว่าจะการฝึกไหวพริบ การวางแผน ความสนุก เว้นเพียงแต่หัวข้อการให้ความรู้เรื่องดวงดาวแก่ผู้เข้าร่วม เพราะว่าเราได้ทำการหยุดการเผยแพร่ความรู้แก่ผู้เข้าร่วม อันนั้นเนื่องจากเกิดปัญหาคือผู้เข้าร่วมนั้นไม่สนใจที่จะฟัง บวกกับมีคิวต่อเข้าร่วมกิจกรรมค่อนข้างมาก เราจึงโฟกัสไปที่ตัวเนื้อกิจกรรมแทน
สะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้
จากตลอดเวลาที่ได้ทำ Project นี้มาทำให้ทางเราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดต่างๆจากในงานของเราอย่างมากมาย และได้มีการประยุกต์เอาความรู้อื่นๆเข้ามาใช้พัฒนาโปรเจคนี้ อย่างการนำระบบ Image Processing เข้ามาใช้ การออกแบบชิ้นงาน การวางแผนจัดการและการบริหารเวลา และสุดท้ายคือความอดทนในการทำงาน[One-night miracle]
ปัญหาระหว่างดำเนินโปรเจค
1. แบตเตอรี่ นั้นหมดเร็ว และชาร์ตเติมประจุได้ช้ากว่าที่คาดไว้ ทางเราจึงแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนรถในสนามลงจาก 6 คัน เหลือ 4 คันแทนเพื่อให้มีรถ+แบตเตอรี่สำรอง ในการเปลี่ยนช่วง
2. มีผู้ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมมากเกินไปจนทำให้ระบบการเรียงคิวผิดพลาด ทางเราจึงได้ทำการแจกบัตรคิวให้แทน แต่วิธีการแก้ปัญหานี้ มันดูไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่
3. ระบบ Image processing นั้นประมวลได้ช้าไป ทำให้ผลการนับคะแนนคลาดเคลื่อน เราจึงทำการปิดระบบ Image ไป แล้วใช้การนับมือแทน เพื่อความรวดเร็ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น